ที่อยู่
เมื่อสร้างการจัดส่งพัสดุ รายละเอียดที่อยู่ของคุณจะถูกใช้เป็นที่อยู่ผู้ส่งโดยค่าเริ่มต้น
หากต้องการเปลี่ยนข้อมูลผู้ส่ง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- ในส่วน จาก คลิก แก้ไข
- คุณสามารถเลือกผู้ส่งรายอื่นจาก สมุดที่อยู่ หรือป้อนข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับผู้ส่งรายใหม่
ในกรณีที่ที่อยู่สำหรับการรับพัสดุไม่เหมือนกับรายละเอียดการติดต่อของผู้ส่ง ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อเพิ่มที่อยู่สำรองสำหรับการรับพัสดุ:
- ในส่วนจาก คลิก แก้ไข ที่อยู่ติดกับ ที่อยู่สำหรับการรับพัสดุและผู้ติดต่อเหมือนกับด้านบน
- ป้อนข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดสำหรับที่อยู่สำรองสำหรับการรับพัสดุ
คุณสามารถป้อนข้อมูลผู้รับได้โดยการเลือกผู้ติดต่อจากสมุดที่อยู่ หรือโดยการป้อนข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดด้วยตนเอง
หากต้องการเลือกที่อยู่จากสมุดที่อยู่ของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:
- ในส่วน ถึง ให้เริ่มพิมพ์ชื่อผู้ติดต่อ จากผู้ติดต่อใน สมุดที่อยู่ของคุณ หรือคุณสามารถเปิดสมุดที่อยู่ได้ด้วยการคลิกสมุดที่อยู่ ซึ่งอยู่ติดกับฟิลด์ชื่อผู้ติดต่อ
- เลือกผู้ติดต่อที่คุณต้องการจัดส่งพัสดุไปให้ ข้อมูลจะโหลดในส่วน ถึง
หมายเหตุ: สำหรับบรรจุภัณฑ์ที่จัดส่งโดย FedEx Express และ FedEx Ground ที่ไม่สามารถส่งไปยังตู้ไปรษณีย์หรือรหัสไปรษณีย์ของตู้ไปรษณีย์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์จะต้องประกอบด้วยที่อยู่ถนนและรหัสไปรษณีย์ของผู้รับที่ครบถ้วน อย่างไรก็ดี การจัดส่งพัสดุโดย FedEx Express ระหว่างประเทศที่จ่าหน้าไปยังตู้ไปรษณีย์ได้รับการยอมรับในประเทศส่วนใหญ่ที่ FedEx ให้บริการ
หากคุณต้องการนำข้อมูลผู้รับกลับมาใช้ใหม่ในการจัดส่งในอนาคต คุณสามารถบันทึกข้อมูลผู้รับได้ในสมุดที่อยู่ของคุณ
ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อบันทึกผู้ติดต่อในสมุดที่อยู่ของคุณ:
- ในส่วน ถึง ให้ป้อนข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมด
- เลือกช่องทำเครื่องหมายที่อยู่ติดกับ บันทึกเป็นผู้รับใหม่ในสมุดที่อยู่
- ดำเนินการจัดส่งพัสดุให้เสร็จสมบูรณ์ ข้อมูลผู้รับจะได้รับการจัดเก็บใน สมุดที่อยู่ของคุณแล้วในตอนนี้
เลือกตัวเลือกนี้เพื่อแสดงว่าคุณกำลังจัดส่งไปยังที่อยู่ที่เป็นที่พักอาศัยแทนที่จะเป็นที่อยู่ทางธุรกิจ การจัดส่งไปยังที่พักอาศัยหมายถึง การจัดส่งที่จ่าหน้าไปยังบ้านหรือที่พักอาศัยส่วนบุคคล ซึ่งรวมถึงสถานที่ซึ่งมีการดำเนินธุรกิจจากที่บ้าน และ/หรือการจัดส่งที่ผู้ส่งได้กำหนดที่อยู่สำหรับการจัดส่งเป็นที่พักอาศัย
การจัดส่งไปยังที่พักอาศัยสำหรับพัสดุส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ลายเซ็นอีกต่อไป เว้นแต่คุณจะเลือก FedEx® Delivery Signature Options
ต้องใช้รหัสไปรษณีย์ของผู้รับเมื่อจัดส่งไปยังบางประเทศ การใช้รหัสไปรษณีย์จะช่วยลดความล่าช้าให้เหลือน้อยที่สุด และนำส่งบรรจุภัณฑ์ไปยังปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น