ให้เรื่องโลจิสติกส์การนำเข้าง่ายยิ่งกว่าเดิม: ข้อควรทราบสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

การนำเข้าคือการนำสินค้าหรือบริการจากต่างประเทศเข้าสู่ตลาดภายในประเทศ การนำเข้าเป็นส่วนสำคัญของการค้าระหว่างประเทศ และยังช่วยเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก การนำเข้านั้นมาพร้อมกับโอกาสอันน่าตื่นเต้น ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงผลิตภัณฑ์ที่พิเศษหรือหายาก ราคาที่ดึงดูดใจ หรือโอกาสในการเพิ่มความหลากหลายและเสริมความแข็งแกร่งให้กับซัพพลายเชนของคุณ

สิ่งเหล่านี้ล้วนสามารถช่วยสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันซึ่งกระตุ้นให้เกิดการเติบโตและผลกำไร

วันนี้เราจะมาอธิบายสิ่งที่คุณควรทราบเพื่อใช้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์เหล่านี้ รวมทั้งนำเสนอเคล็ดลับในการลดความซับซ้อนของโลจิสติกส์การนำเข้า 

ตั้งแต่ความเข้าใจเรื่องข้อกำหนดของศุลกากรไปจนถึงวิธีคำนวณภาษี ความเข้าใจระบบโลจิสติกส์นำเข้าที่ชัดเจนจะสามารถช่วยพาคุณไปสู่ความสำเร็จได้

จุดเริ่มต้นที่ดีคือการตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการนำเข้ามีข้อกำหนดเกี่ยวกับการขออนุญาตหรือกฎระเบียบอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องหรือไม่ รายการอาหารและยาบางอย่างอาจต้องใช้ใบอนุญาตเพื่อแสดงว่าเป็นไปตามมาตรฐานด้านสุขภาพและความปลอดภัยในท้องถิ่น รายการอื่นๆ เช่น อาวุธปืน อาจไม่เพียงแต่ต้องใช้ใบอนุญาตเท่านั้น แต่ยังมีหลักปฏิบัติควบคุมด้วยว่าอาจผลิตหรือนำเข้าจากที่ใดได้บ้าง

ต่อจากนั้นก็ต้องพิจารณาต้นทุนการนำเข้า เหตุผลหลักประการหนึ่งในการนำเข้าสินค้าคือเพื่อจัดหาผลิตภัณฑ์และวัตถุดิบในราคาที่ต่ำลง อย่างไรก็ตาม ภาษีหรือภาษีอากร ค่าขนส่ง และค่าประกันภัย เมื่อนำมารวมกันก็อาจส่งผลกระทบต่อกำไรได้ ยิ่งคุณสามารถประมาณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ได้แม่นยำมากเท่าไร คุณก็จะยิ่งประมาณอัตรากำไรได้แม่นยำมากขึ้นเท่านั้น และยังสามารถพิจารณาได้ด้วยว่าการนำเข้ามีประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณหรือไม่

ข่าวดีก็คือ หลายประเทศมีเกณฑ์มูลค่าการสั่งซื้อขั้นต่ำ กล่าวคือ สินค้าจะต้องมีมูลค่าถึงเกณฑ์ก่อนจึงจะถูกเรียกเก็บอากรและภาษี เกณฑ์นี้ หรือที่เรียกว่า "มูลค่าต่ำสุด" (De Minimis) จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ โดยสามารถดูรายละเอียดสำหรับแต่ละประเทศได้ผ่านทางเว็บไซต์ของ Global Express Association

เมื่อคุณคำนวณค่าใช้จ่ายในการนำเข้าแล้ว ให้ประเมินความเสี่ยง ปัจจัยเสี่ยงหลักๆ ที่ควรพิจารณามีดังต่อไปนี้  

ในการนำเข้าสินค้า มีความท้าทายหลายประการที่ธุรกิจต่างๆ จะต้องรับมือเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานจะเป็นไปอย่างราบรื่น ตั้งแต่การร่วมมือกับผู้จัดส่ง ไปจนถึงการดำเนินพิธีการศุลกากรให้ลุล่วง โดยแต่ละขั้นตอนอาจเกิดอุปสรรคได้ทุกเมื่อ FedEx ขอนำเสนอโซลูชันที่จะช่วยเอาชนะความท้าทายเหล่านี้และช่วยให้โลจิสติกส์การนำเข้าเป็นเรื่องง่ายขึ้น

ความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพระหว่างผู้จัดส่งกับผู้นำเข้าเป็นปัจจัยสำคัญในการหลีกเลี่ยงการสื่อสารผิดพลาด และยังช่วยให้มั่นใจว่าส่งมอบได้ตรงเวลาด้วย บ่อยครั้งที่ผู้นำเข้าจะจัดการการจัดส่งและส่งต่อใบตราส่งสินค้าทางอากาศไปยังผู้จัดส่งด้วยตนเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ เช่น ผู้รับส่งพัสดุมาถึงแล้วแต่พัสดุยังไม่พร้อมให้เข้ารับ

เครื่องมือการจัดส่งสินค้าร่วมกันของ FedEx ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันโดยอนุญาตให้ผู้นำเข้าเริ่มกระบวนการจัดส่งเองได้ จากนั้นผู้นำเข้าก็จะสามารถแชร์ลิงก์ให้ผู้จัดส่งจัดการรายละเอียดขั้นสุดท้ายและนัดรับพัสดุได้ ความร่วมมือนี้จะช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการจัดส่งและลดการรับพัสดุที่ล้มเหลว รวมทั้งความจำเป็นที่จะต้องกำหนดเวลารับพัสดุใหม่

เนื่องจากอากรและภาษีที่ไม่คาดคิดอาจส่งผลกระทบต่อผลกำไรได้ คุณจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจและคำนวณต้นทุนเหล่านี้อย่างถูกต้องเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องประสบกับเรื่องที่ไม่คาดคิด

FedEx Global Trade Manager ช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้นโดยการมอบเครื่องมือต่างๆ เช่น การค้นหาพิกัดศุลกากร ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถระบุการจำแนกประเภทภาษีที่ถูกต้องสำหรับผลิตภัณฑ์ได้ 

Global Trade Manager ยังมีเครื่องคำนวณอากรและภาษี ทำให้ง่ายต่อการประมาณและวางแผนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศ

การดำเนินพิธีการศุลกากรให้สำเร็จอาจเป็นเรื่องซับซ้อน และอาจมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง เช่น เอกสารหรือมูลค่าที่สำแดงไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดความล่าช้า 

FedEx Global Trade Manager ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถดำเนินพิธีการศุลกากรได้ด้วยการรวมเครื่องมือและข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดไว้ในที่เดียว ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนเข้าสู่ออสเตรเลีย หรือจากสิงคโปร์เข้าสู่ไทย คุณก็สามารถหาเอกสารที่จำเป็นต้องแนบไปพร้อมกับการจัดส่งระหว่างประเทศของคุณ การทำเช่นนี้ช่วยทำให้สามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดและลดความเสี่ยงที่จะเกิดความล่าช้าได้

การติดตามพัสดุและความคืบหน้าในขั้นตอนพิธีการศุลกากรมีความสำคัญมากสำหรับธุรกิจ เพราะช่วยในการลดและจัดการความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในเชิงรุก 

เครื่องมือสำหรับการนำเข้าของ FedEx*  จะช่วยลดความซับซ้อนของโลจิสติกส์การนำเข้าด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น

• การตรวจสอบการนำเข้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันบนแพลตฟอร์มเดียว
• แดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายสำหรับตรวจสอบสถานะการดำเนินพิธีการศุลกากร 
• อีเมลแจ้งการอัปเดตอย่างทันท่วงทีเกี่ยวกับการดำเนินการพิธีศุลกากร 
• สามารถอัปโหลดข้อมูลหรือเอกสารที่ขาดหายไปได้อย่างราบรื่นเมื่อได้รับคำขอจาก FedEx เพื่อให้มั่นใจได้ว่าส่งพัสดุจะได้รับการจัดการอย่างราบรื่นเมื่อส่งไปถึง 
• เข้าถึงเอกสารหลังพิธีการศุลกากรได้อย่างง่ายดายด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้ง

*โปรดดูที่ fedex.com เพื่อตรวจสอบความพร้อมใช้งานในตลาดท้องถิ่นของคุณ เนื่องจากบริการที่มีให้อาจแตกต่างกันไป  

พร้อมที่จะเริ่มนำเข้าแล้วหรือยัง เครื่องมือและบริการของ FedEx สามารถช่วยคุณจัดการความซับซ้อนของโลจิสติกส์การนำเข้า ทำให้คุณสบายใจและมีเวลามากขึ้นในการมุ่งเน้นขยายธุรกิจให้เติบโต